มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ซีอีโอ ของบริษัท เฟสบุ๊ก อินคอร์ปอเรชั่น ซึ่งเป็นผู้ให้บริการสื่อโซเชียลเน็ตเวิร์ค Facebook ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก คิดแผนที่จะเสวนาเกี่ยวกับการสัมมนารายปีของบริษัท คอนเน็คท์ คอนเฟอร์เรนซ์ ในวันที่ 28 ต.ค.นี้ โดยมีวาระสำคัญที่จะแปลงชื่อบริษัท เพื่อชี้ให้เห็นถึงความจริงจังของบริษัทสำหรับเพื่อการไปสู่สมัย "Metaverse" ตามวิสัยทัศน์ของ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก
มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ผู้ร่วมสร้างเฟซบุ๊กในห้องพักมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดมาร์ก ซักเคอร์เบิร์กเริ่มสร้างเว็บเฟซแมช ขึ้นร่วมกับผู้จัดตั้งคนอื่นในวันที่ 28 เดือนตุลาคม 2003 ระหว่างที่ซักเคอร์เบิร์กเป็นนิสิตปีลำดับที่สองของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด เฟซแมชเป็นเว็บที่ให้ผู้ใช้งานเลือกภาพผู้เรียนฮาร์วาร์ดสองคนเทียบกันว่าผู้ใดกันแน่เร่าร้อนกว่ากัน ซึ่งเพื่อการนี้ซักเคอร์เบิร์กได้กระทำเจาะระบบของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดเพื่อก็อปปี้รูปนิสิตที่ใช้ในระบบห้องเช่าลงมาในระบบของเฟซแมชในสี่ชั่วโมงแรกของการเปิดเว็บ เฟซแมชมีผู้ใช้งาน 450 คน แล้วก็มีรูปถูกมองทั้งผอง 22,000 รูป แต่ว่าไม่กี่วันต่อมาเว็บก็ถูกปิดโดยฝ่ายบริหารของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ส่วนซักเคอร์เบิร์กก็ถูกตั้งข้อกล่าวหาละเมิดระบบรักษาความปลอดภัย ละเมิดลิขสิทธิ์ ฝ่าฝืนความเป็นส่วนตัวรวมทั้งจำต้องพบเจอกับการไล่ออก อย่างไรก็ตาม ในส่วนท้ายข้อกล่าวหาทั้งสิ้นตกไปแล้วก็ซักเคอร์เบิร์กก็ขยายโครงงานออกไปโดยสร้างอุปกรณ์สำหรับเพื่อการศึกษาเล่าเรียนอย่างจับกลุ่มกันก่อนที่จะมีการสอบไฟนอลประวัติศาสตร์ศิลป โดยอัปโหลดรูปภาพยุคโรมันปริมาณ 500 รูป โดยแต่ละรูปจะเปิดสำหรับเพื่อการให้ความเห็น ทำให้เพื่อนร่วมห้องของเขาเริ่มแบ่งปันโน้ตซึ่งกันและกัน ซึ่งวันหลังศ.จ.ครูได้บอกว่าเป็นการให้เกรดครั้งที่เหมาะสมที่สุดที่เขาเคยให้มาในภาคการศึกษาต่อมา ซักเคอร์เบิร์กได้เริ่มทำโครงงานใหม่ซึ่งเขาได้แรงดลใจมาจากบทความในหนังสือพิมพ์มหาวิทยาลัยเกี่ยวกับเรื่องเฟซแมช โดยในวันที่ 4 เดือนกุมภาพันธ์ คริสต์ศักราช 2004 ซักเคอร์เบิร์กก็เปิดตัว Thefacebook ขึ้น แต่ว่าใน 6 วันถัดมารุ่นพี่ฮาร์วาร์ด 3 คน ก็กล่าวอ้างซักเคอร์เบิร์กว่าลอกความนึกคิดเกี่ยวกับการผลิตเว็บโซเชียลมีเดียไป ซึ่งวันหลังได้เปลี่ยนเป็นคดีในชั้นศาล ในตอนแรก Thefacebook จำกัดสมาชิกเฉพาะนิสิตฮาร์วาร์ดแค่นั้น แล้วก็ด้านในเดือนแรกของการเปิดตัว เกินครึ่งของนิสิตฮาร์วาร์ดก็สมัครเข้าใช้งานบริการนี้ ในมีนาคม คริสต์ศักราช 2004 บริการนี้ก็ขยายฐานผู้ใช้งานไปยังนิสิตมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด โคลัมเบีย รวมทั้งเยล รวมทั้งขยายถัดไปอีกในนิสิตกรุ๊ปมหาวิทยาลัยไอวีลีกไปจนกระทั่งมหาวิทยาลัยอื่นๆในประเทศสหรัฐอเมริกาแล้วก็แคนาดา เฟซบุ๊กก่อตั้งเป็นบริษัทราวกลางปีคริสต์ศักราช 2004 โดยได้ฌอน พาร์คเกอร์มาเป็นประธานบริษัท และก็ย้ายฐานที่มั่นไปยังเมืองแพโล แอลโต เมืองแคลิฟอร์เนีย และไม่นานก็ได้รับเงินลงทุนก้อนแรกจาก ปีเตอร์ ธีล ผู้ร่วมจัดตั้งเพย์แพล ในปีคริสต์ศักราช 2005 เฟซบุ๊กตัด the ออกมาจาก thefacebook ภายหลังซื้อโดเมน facebook.com มาในราคา 200,100 ดอลลาร์สหรัฐ
มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ได้มีการประกาศชื่อใหม่ของบริษัท ออกมาอย่างเป็นทางการเป็นระเบียบแล้วว่า ชื่อใหม่ของบริษัทเป็น Meta เพื่อเป็นการสื่อถึงภาพลักษณ์ของบริษัท แล้วก็เพื่อรองรับบริการใหม่ๆในอนาคต ที่จะให้ทุกคนจะก้าวเข้าสู่โลกใบใหม่โลกเหมือนจริง และก็บันเทิงใจไปกับมัน ต่อแต่นี้ไป ทางบริษัทจะให้ความใส่ใจกับ เมทาเวิร์ส (metaverse) เป็นลำดับแรก โดยเฟซบุ๊กจะไม่ใช่เป็นลำดับแรก นอกเหนือจากนี้ ยังได้เปิดตัวพวกเทคโนโลยี แล้วก็บริการใหม่ๆดังเช่น แว่น AR , oculus รุ่น high end รวมทั้งการให้บริการ VR ที่กำลังปรับปรุงในอนาคต ซึ่งคงจะได้ใช้กันในตอน 5 ปีด้านหน้า แต่ การเปลี่ยนชื่อในคราวนี้ เป็นการแปลงเฉพาะชื่อของบริษัทแม่เพียงแค่นั้น แต่ว่าตัวแอป หรือโปรดักซ์ต่างๆที่เป็นเครือข่ายสังคมในเครือบริษัทจะใช้ชื่อเดิม ดังเช่น อินสตามึงรม,เฟซบุ๊ก, วอทส์แอพพ์ อื่นๆอีกมากมาย ดังนี้ เฟสบุ๊ก อินคอร์ปอเรชั่น ประกาศการว่าจ้างบุคลากรมากขึ้นอีก 10,000 คน ในสหภาพยุโรป ในตอนอีก 5 ปีด้านหน้า เพื่อทำให้การผลิตแพลทฟอร์มที่มีชื่อว่า Metaverse หรือโลกอินเตอร์เน็ต ที่ผู้คนสามารถอาศัย แล้วก็ใช้ติดต่อสื่อสารต่อเนื่องกันบนสถานที่ หรือพื้นที่เสมอเหมือนจริง ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญ ของความเคลื่อนไหวของบริษัทเฟสบุ๊ก อินคอร์ปอเรชั่น สำหรับ เมทาเวิร์ส เทคโนโลยีความจริงเสมอเหมือน ในแบบที่ล้ำยุคขึ้นไปอีก แม้กระนั้นบางบุคคลบางทีอาจมีความรู้สึกว่า เมทาเวิร์ส เป็นอนาคตที่โลกอินเทอร์เน็ต มันบางครั้งอาจจะราวสมาร์ตโฟนในยุคสมัยใหม่เปรียบเทียบกับโทรศัพท์เคลื่อนที่ในสมัยทศวรรษ 1980 แทนที่จะอยู่ในคอมพิวเตอร์ แม้กระนั้นใน เมทาเวิร์ส พวกเราบางทีอาจใช้ชุดหูฟังสำหรับการไปสู่โลกเปรียบเสมือนจริง เชื่อมต่อกับสภาพแวดล้อมดิจิทัลทุกๆสิ่งทุกๆอย่างได้แตกต่างจาก VR ในตอนนี้ ซึ่งส่วนมากถูกใช้สำหรับในการเล่นเกม แต่ว่าโลกเปรียบเสมือนจริงของเมทาเวิร์ส บางทีอาจถูกใช้งานสำหรับในการทำสิ่งต่างๆอีกทั้งดำเนินการ เล่นเกม ดูการแสดงดนตรี มองภาพยนตร์ หรือเพียงแค่การออกไปคบหาสมาคมกับเพื่อนพ้องได้
Metaverse ในนิยามของ Facebook ก็คือโลกเปรียบเสมือนที่จะแปลงเป็น Interface ใหม่สำหรับในการมีความสัมพันธ์กับผู้คนในโลกดิจิทัล จากเดิมที่พวกเราเคยใช้เพียง แค่ เนื้อความ, ภาพ, เสียง, คลิปสำหรับเพื่อการติดต่อสื่อสารระหว่างกัน รวมทั้งจะเป็น Interface สล็อตออนไลน์เล่นง่ายๆ ได้ตลอด24ชม. ใหม่สำหรับการทำสิ่งอื่นๆยกตัวอย่างเช่นการ เข้าถึงข้อมูล, การใช้ Internet, การเล่นเกม, การดูภาพยนตร์, การศึกษา, การทำงาน ไปจนกระทั่งการใช้แรงงาน Application ต่างๆด้วย
ขอบคุณรูปภาพจาก pirterlove